เหตุผลและความจำเป็น
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เปิดหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง ตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 เป็นต้นมา โดยมีนักศึกษาสมัครเข้ามาเรียนอย่างต่อเนื่องในทุกปีการศึกษา เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้มีประสบการณ์และได้รับการยอมรับในระดับสากล พร้อมทั้งสามารถแข่งขันได้ในเวทีระดับโลก หลักสูตรฯ จึงมีแนวคิดในการเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ โดยเน้นงานด้านวิชาการที่เป็นสากล และงานวิจัยควบคู่ไปกับการผลิตบัณฑิตในระดับบัณฑิตศึกษา ภายใต้การสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการอย่างกว้างขวางกับสถาบันการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้ได้การยอมรับทั้งในวงการวิชาการและวิชาชีพ ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพในระดับสากล รวมถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาความเป็นสากลของมหาวิทยาลัย
ภาควิชาวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้สนับสนุนการดำเนินการของโครงการปริญญาคู่ (Double Degree) เพื่อแลกเปลี่ยนนักศึกษา คณาจารย์ และผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งส่งเสริมกิจกรรมทางวิชาการและการวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ อีกทั้งคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ Chia Nan University of Pharmacy and Science (CNU) ได้ทำข้อตกลงในความร่วมมือ (MoA) เกี่ยวกับ Double Degree Program in Cosmetic Science เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเพื่อให้เกิดการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมจึงได้จัดทำโครงการเปิดสอนหลักสูตรปริญญาคู่ ในการจัดการศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง ตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 เป็นต้นมา
วัตถุประสงค์ เพื่อผลิตมหาบัณฑิตที่
1. เพื่อผลิตมหาบัณฑิตสาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางที่ได้รับปริญญาคู่จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ Chia Nan University of Pharmacy and Science
2. เพื่อผลิตมหาบัณฑิตที่มีคุณสมบัติเด่น ดังต่อไปนี้
2.1 มีความรู้ความสามารถในระดับสากล
2.2 มีความรู้เชิงลึกในการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาพัฒนาในการวิจัยและผลิตเครื่องสำอาง
2.3 มีความสามารถด้านวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางที่มีคุณภาพตามหลักสูตรสากลและสามารถนำไปพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมทางเครื่องสำอางในระดับชาติและนานาชาติ
2.4 มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายเครื่องสำอางทั้งในประเทศและต่างประเทศ
3. เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ Chia Nan University of Pharmacy and Science อย่างต่อเนื่องในด้านงานวิจัย การเรียนการสอน การใช้ความเชี่ยวชาญจากแต่ละสถาบัน และทุนการศึกษา
รูปแบบของหลักสูตร
เป็นหลักสูตรระดับปริญญาโท หลักสูตร 3 ปี และใช้เวลาศึกษาอย่างมากไม่เกิน 5 ปีการศึกษา โดยนักศึกษาในแต่ละสถาบันที่เข้าร่วมโครงการจะต้องศึกษาและทำวิจัยในสถาบันที่ร่วมโครงการ (host university) อย่างน้อย 2 ภาคการศึกษา
คุณสมบัติผู้เข้าศึกษา
สำหรับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลักสูตรแบบ 2 หรือ แผน 2 แบบวิชาการ
1. ในกรณีนักศึกษาใหม่ จะต้องเป็นนักศึกษาที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกเข้าเรียนในหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในแผน 2 แบบวิชาการ ซึ่งมีผลคะแนนการสอบภาษาอังกฤษผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือตามที่คณะกรรมการบริหารหลักสูตรกำหนด
2. ในกรณีนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในหลักสูตรปกติ จะต้องเป็นนักศึกษาในหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แบบ 2 หรือ แผน 2 แบบวิชาการ ซึ่งได้ผ่านการเรียนกระบวนวิชาตามปกติของหลักสูตรอย่างน้อย 20 หน่วยกิต ซึ่งอยู่ในข้อตกลงใน appendix to DDP MoA และมีผลคะแนนการสอบภาษาอังกฤษผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามที่คณะกรรมการบริหารหลักสูตรกำหนด
3. โครงร่างวิทยานิพนธ์ต้องผ่านความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลักและคณะกรรมการสอบโครงร่างวิทยานิพนธ์ของทั้ง 2 สถาบัน
4. คุณสมบัติอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ให้เป็นไปตามความเห็นชอบของคณะกรรมการร่วมที่ระบุไว้ในบันทึกข้อตกลง (MoA)
วิธีการคัดเลือกเข้าศึกษาในโครงการปริญญาคู่
สำหรับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีการประกาศรับสมัครนักศึกษาในหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์เข้าร่วมโครงการปริญญาคู่ในภาคการศึกษาที่ 1 ของทุกปีการศึกษา โดยมีกระบวนการในการคัดเลือกจากคณะกรรมการบริหารหลักสูตรสาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง
หมายเหตุ
1. นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการศึกษาในสถาบันร่วมโครงการ (host university)
2. สถาบันร่วมโครงการ (host university) จะเป็นผู้เอื้อเฟื้อสถานที่และอุปกรณ์การทำวิจัยในการทำวิทยานิพนธ์ให้แก่นักศึกษา
3. สถาบันร่วมโครงการ (host university) จะอำนวยความสะดวกในการจัดหาที่พักอาศัย ทั้งนี้นักศึกษาอาจจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองแล้วแต่กรณี